ยินดีต้อนรัีบ

วันอังคารที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2562

เทพทมิฬ เล่ม 1

ผู้แต่ง เซาะงัง ผู้แปล น. นพรัตน์ กลุ่มหมอกคละเคล้าครอบคลุมทั่วบรรพตไท้ซัว อบอวลทั้งแผ่นฟ้านภากาศ พสุธาท้องทุ่งร้าง และปกคลุมทั้งขุนเขาชโงกผาพุ่มพฤกษ์ไม้ยืนต้น… เทือกทิวเขาอันยาวเหยียด ไพศาลกว้างไกลไร้ขอบเขต ล้วนแต่กลืนหายเข้าไปในหมอกเมฆที่เลือนราง ยอดเขากวนยิกฮง (ยอดเขาสุริยัน) ที่สูงตระหง่านสุดยอด จึงโดดเด่นแจ่มชัดปรากฏขึ้นเหนือเมฆา ท่ามกลางหมู่เมฆากลุ่มหมอกที่ตลบสุมปกคลุมสำเนียงขลุ่ยที่รันทดโศกซึ้ง ครวญคร่ำวิเวกจิต ได้กระจายไปตามสายลม จนผู้รับฟังอดสลดขื่นขมมิได้ ต้นเสียงเพลงเศร้า ดังแว่วมาจากเชิงเขาสุริยันซึ่งตำแหน่งนั้น ปรากฏเป็นหุบเข้าเล็กๆ ทั่วสี่ด้านตระหง่านง้ำเป็นผนังผาอันสูงชัน ภายในหุบเขาดาดาษซับซ้อนด้วยต้นสนสูงใหญ่กิ่งไผ่เขียวขจี เถาวัลย์ห้อยระย้า โขดเขาระเกะระกะและหิมะขาวสล้าง ประดับประดาจนหุบเขาแห่งนี้กลับกลายเป็นมหรรณพสีเงินยวง สถานที่นี้สมควรเป็นหุบเขารกร้างที่ปราศจากร่องรอยมนุษย์เค้ามูลจัตุบาท แต่ทว่า เสียงขลุ่ยอันวังเวงได้ดังมาจากภายในหุบเขาชัดๆ ด้านในของหุบเขา เป็นลำธารน้ำสายน้อย ทอดยาวยื่นคดเคี้ยวออกไป สองฟากข้างปลูกเรียงรายด้วยดอกเหมยที่บานสะพรั่งผลิดอกเบ่งบาน กระจายกลิ่นหอมอันสดชื่นบริสุทธิ์คละคลุ้งไปทั่วหุบเขา ทางด้านทิศอุดรของทะเลดอกเหมย ปลูกสร้างด้วยกระท่อมมุงจากสองหลัง ซอมซ่อรกชัฎ คาดว่าคงปราศจากการตบแต่งดูแลเป็นเวลาเนิ่นนานแล้ว ต้นเสียงเพลงสำเนียงขลุ่ยอันแน่ชัด ได้ดังมาจากด้านหลังกระท่อมนั่นเอง หากอ้อมผ่านกระท่อมมุงจาก จะแลเห็นสุสานหลังหนึ่ง บุรุษหนุ่มชุดเหลืองอายุประมาณสิบเจ็ดสิบแปดปี คิ้วเรียวตางามปากแดงระเรื่อ ฟันขาวสะอาดกำลังคุกเข่าอยู่หน้าหลุมฝังศพ ป้ายศิลาหน้าสุสาน ราบเรียบดั่งกระจกสลักอักษรว่า ที่ฝังศพบิดาแป๊ะฮุ้นเซ็ง มารดาป้วยเซียงกุนผู้ล่วงลับ บุตรกำพร้าแป๊ะเง็กคี้” download http://www.4shared.com/get/mFI8aF8Lba/__1.html ขอขอบคุณเครดิตของคุณ SiawLong V. "กรุณาอย่านำไปโพสต์ขาย"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น